‘แอม ไซยาไนด์’ ฆาตกรต่อเนื่องหญิงไทยคนแรก กับข้อกังขาของสังคม หญิงมีครรภ์ไม่มีสิทธิ์ต้องโทษประหาร
หลายปีมาแล้วที่สังคมไทยไม่ได้ยินเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่อง ล่าสุด ปี 2566 คนไทยทั้งประเทศต้องช็อกกับการกระทำของเธอคนนี้ “แอม” หรือที่รู้จักกันในนาม “แอมไซยาไนด์” ฆาตกรต่อเนื่องรายล่าสุด และเป็นฆาตกรต่อเนื่องหญิงรายแรกของประเทศไทย ที่คร่าชีวิตเหยื่อไปแล้วกว่า 20 ราย อย่างโหดเหี้ยม
เรื่องราวเริ่มต้นจาก “น้องก้อย” ศิริพร ขันวงษ์ เท้าแชร์ชื่อดัง ชาวกาญจนบุรี ได้หายตัวไป เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 66 ระหว่างนั้นพี่สาวและแม่ ได้พยายามตามหาและโทรไปถาม “แอม” ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ “ก้อย” มาเกือบ 10 ปี แต่แอม อ้างว่าเธออยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้อยู่กับก้อย
จากนั้นไม่นาน แม่และพี่สาวทราบว่า ก้อย เสียชีวิตลง ด้านตำรวจไล่กล้องวงจรปิด เจอว่าวันเกิดเหตุก้อยได้มาปล่อยปลากับแอม ขับรถเก๋งสีบรอนซ์เงิน มาจอดบริเวณริมน้ำศาลาประชาคม แล้วเดินลงจากรถคันดังกล่าว ก่อนที่ก้อยจะเดินลงไปปล่อยปลา และหมดสติล้มลง โดยแอมได้ตะโกนเรียกคนมาช่วย และขับรถคันดังกล่าวออกไปทันที
สิ่งผิดสังเกต คือ ทรัพย์สินของก้อยหายไป และพบว่า แอม เป็นคนเอาไป อ้างว่าวันเกิดเหตุ ก้อยได้นัดกับเสี่ยคนหนึ่งที่แอบมีสัมพันธ์ด้วย และเหตุผลที่ไม่อยู่ช่วยก้อย เพราะต้องรีบไปงานกฐิน
ด้วยข้อพิรุธต่างๆ พี่สาวและแม่ของก้อยได้มาแจ้งความที่กองปราบฯ พร้อมบอกว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ลักษณะเดียวกับก้อยอีก 4 คน
หลังจากนั้น เรื่องนี้เริ่มเป็นกระแส เริ่มมีเหยื่อออกมาแสดงตัว บอกว่ามีคนรู้จักที่เคยใกล้ชิดกับแอมเสียชีวิตลักษณะเดียวกันกับก้อย และพบว่าผู้เสียชีวิตทุกราย มีความเชื่อมโยงกันจากการเป็นวงแชร์ของแอม เป็นที่มาของ “วงแชร์มรณะ”
จนท้ายที่สุด ตำรวจสืบสวนไปเรื่อยๆ ก็ต้องพบกับความน่าตกใจ เมื่อเหยื่อของแอม พุ่งทะยานสูงขึ้นเป็น 20 ศพ เหยื่อทุกรายมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงหมุนเวียนกับแอม แต่ก็ยังโชคดี ที่บางรายยังรอดชีวิตมาได้ และไม่ติดต่อแอมอีกเลย
เคสนี้ทำให้ประชาชนตั้งคำถามถึงกระบวนการยุติธรรม เพราะการลงโทษเธอคนนี้ ไม่สามารถประหารชีวิตได้ เนื่องจากกำลังตั้งครรภ์
ตามกฎหมายอาญา มาตรา 247 วรรคแรก ระบุว่า คดีที่จำเลยต้องโทษประหารชีวิต ห้ามมิให้บังคับตามคำพิพากษาจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยอภัยโทษแล้ว
และในวรรคสองบอกว่า “หญิงใดต้องโทษประหารชีวิต ถ้ามีครรภ์อยู่ ให้รอไว้จนพ้นกำหนดสามปีนับแต่คลอดบุตร ให้ลดโทษประหารชีวิตลงเหลือจำคุกตลอดชีวิต เว้นแต่บุตรถึงแก่ความตายก่อนพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว ในระหว่างสามปีนับแต่คลอดบุตร ให้หญิงนี้เลี้ยงดูบุตรตามความเหมาะสมในสถานที่ที่สมควรแก่การเลี้ยงดูบุตรในเรือนจำ”
นั่นหมายความว่า แม้ว่าแอมจะคลอดลูกแล้ว กฎหมายกำหนดให้ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต แทนการประหาร
ปัจจุบัน คาดว่ามีผู้เสียชีวิตสูงสุดถึง 30 ราย แต่ไม่สามารถต้องโทษประหารเธอได้ เนื่องจากกฎหมายในเรื่องของการตั้งครรภ์ ที่จะทำให้เธอถูกลดโทษเหลือเพียงจำคุกตลอดชีวิต เรื่องนี้ทำให้สังคมไม่พอใจ ญาติของเหยื่อต่างพากันขุ่นเคืองกับกฎหมายข้อดังกล่าว เพราะไม่สามารถทวงความเป็นธรรมให้คนตายได้เลย
อย่างไรก็ตาม คดีของแอมในครั้งนี้ อาจมีผลไม่มากก็น้อย ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎหมายหรือไม่ หลายคนยังคงจับตากันต่อไป เฝ้ารอบทสรุปของแอม ไซยาไนท์ ฆาตกรสุดเหี้ยม ว่าเมื่อไหร่จะถึงวันที่เธอต้องชดใช้กรรมอย่างสาสม