ดีลลับ พท.-กก. ขับเคลื่อนประชาธิปไตย ยัดเสียง ส.ว.ลงคอห่าน “ก้าวไกล” ถอยไปเป็นฝ่ายค้าน แต่ยกมือโหวตให้เพื่อไทย ได้นายกฯ ผ่านฉลุย ฉีก MOU 8 พรรคร่วมเดิม พท.แกนนำจัดตั้งรัฐบาลใหม่ “เศรษฐา” นายกฯ ดึง ภท.-ชทพ.-ชพก.-19 ปชป.ค่าย “เสี่ยต่อ” ร่วมรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ รอเติมจังหวะสองหลังได้นายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย ถึงความคืบหน้าในการรวบรวมเสียง สส.จัดตั้งรัฐบาล และโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในการประชุมรัฐสภาวันที่ 4 ส.ค. โดยพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่ได้รับมอบสิทธิจาก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ตั้งเป้าจะทำให้การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้สำเร็จลุล่วง ไม่ต้องการยืดเยื้อไปครั้งหน้า เพราะหวั่นเกรงปัจจัยแทรกซ้อน พรรคการเมืองอื่นๆ หรือขั้วการเมืองอื่นแย่งชิงจัดตั้งรัฐบาลแข่ง
พรรคเพื่อไทยเตรียมทิ้งไพ่สำคัญ ส่งชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ให้รัฐสภาลงมติเห็นชอบเป็นนายกฯ คนที่ 30 และคาดว่าจะเป็นการส่งชื่อ นายเศรษฐา เพียงรายเดียว ไม่มีพรรคการเมืองอื่นใดเสนอแคนดิเดตนายกฯ มาแข่งขัน มั่นใจว่าจะผ่านความเห็นชอบอย่างแน่นอน เพราะมีการเตรียมแผนปรับกลยุทธ์ไว้แล้ว แน่นอนว่าโฉมหน้าพรรคร่วมรัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก
เบื้องต้นจะมีการประชุมกันภายในระหว่าง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเดิม พรรคเพื่อไทยจะนำข้อมูลที่ได้ไปเก็บรวบรวมมาจากทั้งในส่วน สส. และ สว. ถึงความเป็นไปได้ที่จะรวบรวมเสียงให้ผ่านเกณฑ์เลือกนายกฯ แต่จากข้อมูลดังกล่าวของพรรคเพื่อไทยสรุปได้ว่ายังคงมีเสียงไม่เพียงพอเช่นเดิม หากยังอยู่ใน MOU 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเดิม ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจะสอบถามความเห็นของอีก 7 พรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ขณะที่พรรคเพื่อไทยได้คิดแผนหาทางออกเรื่องนี้ไว้เแล้ว โดยสุดท้ายจำเป็นต้องขอให้ฉีก MOU 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทิ้งและแยกตัวกันไป
จากนั้นพรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใหม่เอง โดยไม่มีพรรคก้าวไกลที่ติดเงื่อนไขหลายพรรคการเมืองประกาศไม่ร่วมงานด้วย โดยคาดว่าจะมี 3 พรรคการเมืองที่ตามมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย พรรคประชาชาติ 9 เสียง เพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง และเสรีรวมไทย 1 เสียง และมีพรรคการเมืองเพิ่มเติมเข้ามาคือ พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า 2 เสียง และพรรคประชาธิปัตย์ในปีกของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค 19 เสียง เข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาลก่อนเป็นกลุ่มแรก เมื่อรวมทั้งหมดจะมีเสียง สส. 255 คน เกินครึ่งมาแค่ปริ่มน้ำเท่านั้น
อย่างไรก็ตามแต่แค่นั้นก็เพียงพอสำหรับการโหวตให้ผ่านเกณฑ์นายกฯ เพราะจะมีตัวแปรสำคัญคือ 151 เสียงจากพรรคก้าวไกล ที่แม้จะหลุดไปเป็นฝ่ายค้าน แต่พร้อมจะยกมือโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย เพื่อขับเคลื่อนกลไกประชาธิปไตยต่อไป ไม่จำเป็นต้องพึ่งเสียง สว. เมื่อรวมทั้งหมดแล้วจะได้เสียงโหวตถึง 406 เสียง สอดรับกระแสข่าวเจรจา “ดีลลับฮ่องกง” คนแดนไกลค่ายแดง-ผู้นำจิตวิญญาณค่ายส้ม และเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรค “2ลุง” คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ และ พรรคพลังประชารัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ดีลลับดังกล่าวเมื่อรู้ถึงพรรคการเมืองอื่นๆ ต่างก็แสดงตัวพร้อมที่จะยกมือโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ด้วยแทบทั้งหมด เพราะรู้ดีว่าพรรคเพื่อไทยยังจะต้องดึงเสียง สส. มาเพิ่มเติมอีก หลังจากเลือกนายกฯได้แล้ว เนื่องจากเสียง สส. ยังปริ่มน้ำอยู่ หากไม่แสดงตัวสนับสนุนตอนนี้ อาจมีสิทธิตกขบวนร่วมรัฐบาล ดังนั้นอาจได้เห็นภาพความพร้อมเพรียงของ สส. ที่จะยกมือโหวตให้แคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทยกันเกือบทั้งหมดราวกับรัฐบาลแห่งชาติเลยทีเดียว