สส.พรรคก้าวไกล ตั้งคำถามตัวโตๆ ถึงเวลายกเลิกหลักสูตร วปอ. และ มินิวปอ. แล้วหรือยัง ? หลังลูกสาวทักษิณมีชื่อโผล่สมัครเรียนด้วย หวั่น สร้างคอนเนคชันแสวงหาอำนาจ ไปทุจริต
รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกมธ. ความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร ออกมาตั้งคำถามตัวโตๆ ว่า ถึงเวลายกเลิกหลักสูตร วปอ. และ มินิวปอ. แล้วหรือยัง ?
เรื่องของเรื่อง ดันมีชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย สมัคร เข้าเรียนหลักสูตรดังกล่าว ด้วย
หลักสูตร วปอ.ที่มีมาตั้งแต่ช่วงสมัยของ จอมพล ป. วันนี้มันจึงถูกตั้งคำถาม
“โรม” บอกว่า วันนี้ ผู้ที่เข้าร่วมหลักสูตรดังกล่าว กำหนดคุณสมบัติให้ผู้ที่มาจากกระบวนการยุติธรรม ผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ รวมทั้งพ่อค้า นักธุรกิจทำให้กลายเป็นพื้นที่เข้ามาแสวงหาอำนาจบางอย่างที่ผู้มีอำนาจรัฐมี
การหาคอนเนคชั่น ที่มีผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ อยู่ในเครือข่าย คือหลักสูตรที่สร้างความเสี่ยงต่อการนำคอนเนคชั่นมาใช้ในทางทุจริต โดยมีผลประโยชน์ของประชาชนเป็นเดิมพัน ทำให้ประเทศของเราอยู่ในอันตราย ทำให้กระบวนการยุติธรรมอยู่ในความเสี่ยง
รังสิมันต์ ยังบอกอีกว่า แม้ว่าหลักสูตรมินิ วปอ. จะไม่มีผู้พิพากษา อัยการ ก็ตาม แต่สิ่งที่ยังคงอยู่คือการหวงห้ามความรู้ สงวนสิทธิ์เหล่านี้ให้แก่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะเท่านั้น โดยอ้างอิงจากคำพูดของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ว่า ผู้ที่จบหลักสูตร วปอ. คือ 1% ของประเทศนี้ หากประเทศของเราอยากสร้างความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ การเดินหน้าจัดหลักสูตรมินิ วปอ. ด้วยการกีดกันคุณสมบัติเช่นนี้ ยิ่งทำให้ 1% เหล่านี้เหนียวแน่นกัน ยิ่งตอกย้ำความเหลื่อมล้ำ และทำให้การเลือกปฏิบัติชัดเจนยิ่งขึ้นในสังคม
“โรม” บอกอีก ว่า หากจะให้หลักสูตรแบบนี้เดินหน้ากันต่อ ขั้นต่ำ ต้องทำ นำผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ ออกจากหลักสูตร ตัดตอนเครือข่ายคอนเนคชั่น ให้นักธุรกิจออกห่างจากผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม
หรือหากจะปฏิรูปหลักสูตรกันอย่างจริงจัง เราก็อาจจะตั้งเป็นมหาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ที่ดำเนินการวิชาการ มีการวัดผล และสุดท้ายไม่ว่าจะทำแนวทางไหน ก็ต้องเปิดให้บุคคลทั่วไปที่สนใจในเรื่องของความมั่นคง ที่นามสกุลไม่ดัง ได้มีโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้ได้เท่าเทียมกัน
รังสิมันต์ โรม ยังทิ้งท้าย โดยเชื่อว่า เนื้อหาของหลักสูตรวปอ. ยังมีส่วนที่น่าสนใจ ในเรื่องของความมั่นคงอยู่จริง แต่การมีอยู่ของวปอ.เช่นนี้ต่อไป ก็ทำให้ผลประโยชน์ของประชาชนอยู่ในความเสี่ยงเช่นกัน