“เศรษฐา” เสนอเปลี่ยนชื่อสนามบินหัวหินเป็น "เพชร - หัวหิน" เล็งเพิ่มไฟล์ทบิน 4 เส้นทาง หวังดึง นทท. ช่วง High Season
เวลา 13.25 น. วันที่ 13 พ.ค. 2567 ที่ท่าอากาศยานหัวหิน ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายเศรษฐา ทวีสิน พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมการพัฒนาสนามบิน เพื่อรองรับ International Flights โดยได้มีการเยี่ยมชมจุดจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน และตรวจบัตรโดยสาร ก่อนขึ้นไปที่ห้องสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. เพื่อดูพื้นที่ต่อขยาย หากมีปริมาณนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก สนามบินสามารถรองรับได้หรือไม่ ซึ่งมีการรายงานว่า ยังสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ตามปกติ
ขณะที่ นายเศรษฐา เยี่ยมชมรันเวย์ ได้สอบถามว่า นอกจากเที่ยวบินเชียงใหม่หัวหินมีเที่ยวบินไหนมาลงที่สนามบินนี้อีกบ้าง ในพื้นที่ภาคใต้มีเที่ยวบินลงมาหรือไม่ เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวมาเลเซียให้มาอยู่ในพื้นที่นานขึ้น โดยเสนอให้มีการเพิ่มเที่ยวบินจากปัจจุบันมีเพียงการบินหัวหิน-เชียงใหม่ ให้เป็นหาดใหญ่- หัวหิน มาเลเซีย- หัวหิน และอาจจะมีการเพิ่มเที่ยวบินจากภาคอีสานอีก 1 เที่ยวบิน ซึ่งทั้ง 4 เที่ยวบินนี้ จะต้องมีการบริหารจัดการเวลาให้ดี เพราะหัวหินเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของไทย และหากจะเสนอเปลี่ยนชื่อจากท่าอากาศยานหัวหิน เป็นท่าอากาศยาน "เพชร-หัวหิน" ตามเสียงเรียกร้องของประชาชนจะได้หรือไม่ หากเปลี่ยนชื่อหรือเพิ่มชื่อขึ้นมาจะทำให้ประชาชนเข้าใจได้ว่าสนามบินหัวหินแห่งนี้ใกล้กับ จ.เพชรบุรี จึงอยากให้พิจารณาดูว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เพิ่งจะทำให้ช่วยการขยายท่องเที่ยว และการเจริญเติบโตของเมืองไปยังจังหวัดเพชรบุรีด้วย เพราะหัวหินเป็นเมืองหลักอยู่แล้ว แต่เพชรบุรีก็ควรเป็นเมืองที่น่าเที่ยว เนื่องจากมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยช่วงเย็นวันนี้ตนก็จะไปรับชมกิจกรรมวัวลาน นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวและโบราณสถานอีกหลายแห่ง จึงอยากให้ดูเรื่องของ activity และการอัพเกรดสนามบิน จะเป็นตัวทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ชุมชนดีขึ้น อยากให้ทางกระทรวงคมนาคมและการท่าอากาศยานดูเรื่องนี้ ว่าสามารถทำตรงไหนได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งในเรื่องการขยายรันเวย์ จะต้องทำให้ถูกกฎหมายเพื่อรองรับไฟล์ทบินจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ นายเศรษฐษ กล่าวเพิ่มเติมว่า เห็นถึงศักยภาพของสนามบินแห่งนี้ มีการขยายรันเวย์ให้มากขึ้นและรองรับเที่ยวบินจากต่างประเทศ ซึ่งน่าจะทำเสร็จอีกภายใน 2 ปี โดยตนให้ปลัดกระทรวงคมนาคมไปดูว่าจะสามารถร่นระยะเวลาในการก่อสร้างจาก 2 ปีให้แล้วเสร็จภายในปีครึ่งได้หรือไม่ ให้ทันไตรมาส 4 ปีหน้า ซึ่งเป็นช่วง High Season ของฤดูการท่องเที่ยว เพื่อขยายสนามบินให้เป็น International ซึ่งก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- 19 สามารถรองรับเที่ยวบินจากต่างประเทศได้ แต่ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย หรือ ICAO Stand ยังไม่ได้มาตรฐานพอ เพราะฉะนั้นจะต้องมีการขออนุมัติใหม่