facebook

"เทพไท " รับอิสรภาพ ถอดกำไร EM

06 ก.ค. 2567
12:07

"เทพไท" รับอิสรภาพ ถอดกำไร EM ฟาดระบบยุติธรรมไทย 2 มาตรฐาน - เปรียบ “เศรษฐา” เป็นไข่ในหินที่ “ครอบครัวชินวัตร” ต้องทนุถนอม


เวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.ค.2567 ที่กรมคุมประพฤติ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้ามาถอดกำไล EM หลังครบกำหนดการพักโทษ


นายเทพไท เผยว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายหลังถูกคุมขัง และครบกำหนดรายงานตัว จึงมาพบเจ้าหน้าที่ในวันนี้ เพื่อมาถอดกำไลEM ยืนยันว่าที่ผ่านมาตนได้ปฎิบัติตามระเบียบของราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ต้องขอบคุณ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมณขณะนั้น ที่มาเยี่ยมถึงเรือนจำ และ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ประสานการพักโทษให้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติกับตัวเองเหมือนนักโทษทั่วๆ ไป ไม่มีสิทธิพิเศษใดๆ ทั้งสิ้น ถูกจำคุก 2 ปีเต็ม เมื่อถึงวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 ก็ได้มีพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ แต่ตนไม่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เพราะขณะนั้นมีเงื่อนไขว่าต้องจำคุกก่อน 1 ใน 3 กระทั่งถูกคุมขังได้ 8 เดือน ซึ่งถือว่ารับโทษ 1 ใน 3 ของโทษ ถึงได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ  


กระทั่ง 22 สิงหาคม 2566 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมารีบโทษในประเทศไทยและขอพระราชทานอภัยโทษ โดยใช้เหตุผล 4 ข้อ คือ บอกว่าเป็นนักการเมืองทำงานให้กับประเทศชาติ เมื่อเทียบเคียงดู ตนก็เป็นนักการเมืองร่วม 20 ปี รับใช้ประเทศชาติเช่นเดียวกัน นายทักษิณอ้างว่ามีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตนก็มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เคยโดนคดีในมาตรา 112 แต่นายทักษิณกลับมีคดีในมาตรา 112 ติดตัว รวมถึงระหว่างที่เป็นนักการเมืองตนก็ได้จัดรายการสายล่อฟ้า ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์โดยตลอด นายทักษิณอ้างว่าเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม  


แต่กลับหนีคดีไป 17 ปีแต่ตนไม่ได้หนีคดีอะไรเลยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 3 ศาลในปีเดียวไม่มีการเลื่อนใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งนายทักษิณ อ้างว่าอายุเยอะ มีโรคประจำตัว ตนก็บอกว่าหากนับอายุตนก็ 60 ปีแล้ว ถือว่าเป็นคนอายุมากคนหนึ่ง มีโรคประจำตัวด้วยเช่นกัน และสิ่งที่ตนมีมากกว่าคือ นายทักษิณ โดนคดีโกงชาติโกงแผ่นดิน แต่ตนโดนคดีผิด พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น ฐานไปเลี้ยงข้าวกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตนน่าจะมีเหตุผลเพียงพอที่จะยื่นหลักฐานขอพระราชทานอภัยโทษ จึงยื่นไป นายทักษิณใช้เวลา 2 วันกระบวนการแล้วเสร็จ แต่ตนใช้เวลา 2 ปี ยังไม่ทราบเลยว่ากระบวนการไปถึงไหนแล้ว ฉถนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าตนกับนายทักษิณ มีความเป็น 2 มาตรฐาน ไม่ต้องเทียบกับนักโทษคนอื่นที่เป็นลูกชาวบ้านทั่วไปแทบไม่ได้รับสิทธิ์อะไรเลย ตนอยู่ในเรือนจำตลอดเวลาที่ถูกคุมขัง แต่นายทักษิณ อยู่โรงพยาบาลตลอด โดยอ้างว่าป่วย ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องตรวจสอบว่านายทักษิณ ป่วยจริงหรือไม่


ทั้งนี้ คำสัมภาษณ์พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส น่าจะเป็นหลักฐานสำคัญที่จะมัดตัวนายทักษิณได้ ที่ระบุว่า ได้ไปเยี่ยมนายทักษิณ ที่โรงพยาบาล โดยได้มีการขอร้องให้ถอนฟ้องนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ นั่นแสดงว่าตอนที่นายทักษิณ อยู่ชั้น 14 ไม่ได้ป่วยวิกฤติ ยังมีสติสติสัมปชัญญะครบ 100% สามารถสั่งการความเคลื่อนไหวทางการเมืองได้ มิเช่นนั้นคงไม่เรียก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปเพื่อขอให้ถอนฟ้องนายเศรษฐา รวมถึงนายทักษิณ คือผู้มีอำนาจ บารมี เหนือรัฐบาลชุดนี้อย่างอท้จริง เห็นได้จากเหตุผลข้อที่ 2 ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่ว่า ได้รับโทรศัพท์จากนางสาวยิ่งลักษณ์ และการขอร้องจากนายทักษิณ นั่นเปรียบเสมือนว่านายเศรษฐา คือ พนักงานคนหนึ่งของครอบครัวชินวัตร เป็นร่างทรงให้กับนายทักษิณ หากนายเศรษฐา มีอิสระในการบริหารประเทศจริง นายทักษิณ คงไม่เข้ามาแทรกแซง หรือขอร้องคนโน้นคนนี้ เรียกได้ว่านายเศรษฐา ยิ่งกว่าไข่ในหิน เพราะไข่ที่อยู่ในหินต้องได้รับการทะนุถนอม



ทั้งนี้ ยืนยันว่าตัวเองเป็นคนธรรมดา แม้จะเคยเป็นนักการเมือง แต่ตอนนี้อยู่ในสถานะประชาชนและติดกำไล EM เหมือนนักโทษทั่วไป มารายงานตัวตามเวลาทุกครั้ง และไม่มีเงื่อนไขพิเศษใดๆ ทั้งสิ้น นายทักษิณ ได้รับการพักโทษในวันอาทิตย์และออกอาทิตย์เลย แต่ของตัวเองพักโทษวันเสาร์ต้องรอออกวันจันทร์ เนื่องจากไม่ใช่เวลาราชการ 


ยืนยันไม่ได้มีอคติกับนายทักษิณ เป็นการส่วนตัว ถือว่าเราได้รับชะตากรรมเดียวกัน แต่ตนเคารพกติกา ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่าตัวเองไม่ได้ผิดอะไร แต่นายทักษิณ เข้ามาในกระบวนการยุติธรรมแต่ไม่ยอมรับกติกา ทูลเกล้าขอ พระราชทานอภัยโทษ บอกยอมรับกระบวนการยุติธรรม แต่กลับสัมภาษณ์กับสื่อว่าถูกยัดเยียดข้อหา แสดงให้เห็นว่าได้ทูลเกล้าอันเป็นเท็จ


ส่วนการที่ตนใส่รองเท้า 2 สี มาวันนี้นั้น ไม่ได้มีนัยยะใดๆ ทั้งนั้น เพราะตนได้ใส่ลงพื้นที่ตั้งแต่ตอนสมัยเป็น สส. อยู่แล้วเป็นเวลากว่า 20 ปี เพราะเวลาเข้าวัดต่างจังหวัดรองเท้าหายบ่อย จึงใส่รองเท้าสองสีเพื่อเป็นทริกกันรองเท้าหาย ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง


ทั้งนี้นายเทพไท เผยว่า หลังจากนี้ตนจะมีอิสระในการเคลื่อนไหวมากขึ้น ที่ผ่านมามีหลายช่อง มีหลายรายการที่ติดต่อเข้ามาขอสัมภาษณ์แต่ไม่ได้เปิดโทรศัพท์ไว้เลย รวมถึงไม่สามารถออกนอกพื้นที่กรุงเทพมหานครได้ แต่หลังจากนี้คงจะอิสระมากขึ้น ได้รับอิสรภาพสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์

ข่าวแนะนำ

จิตอาสา ซีพี-ซีพีเอฟ รวมพลังลงพื้นที่ส่งมอบอาหารคุณภาพ
© COPYRIGHT 2024 ROOM44 บริษัท นิวส์รูม 2020 จำกัด