พปชร.ร่อนหนังสือด่วนถึง “นายกฯอิ๊งค์” ทวงแบบกรอกคุณสมบัติแต่งตั้งรมต.ให้ “พัชรวาท” หลังไร้การติดต่อจากสลคตอกย้ำมติกก.บห.พลังประชารัฐ ส่ง 4 รายชื่อเดิม ตามโควตา หลัง 39 เสียงพปชร.โหวตเห็นชอบนั่งนายกฯ

วันที่ 26 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ปฎิบัติหน้าที่แทนหัวหน้าพรรคพปชร. ได้ลงนามในหนังสือพรรคพปชร.เลขที่ พปชร.138/2567 ลงวันที่ 26 ส.ค.ถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี(สลค.) ได้รับหนังสือไว้แล้ว เรื่อง ขอให้สลค. ดำเนินการส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้กับพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ มีความว่า 

ด้วยพรรคพปชร.ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ส.ค.67 คณะกรรมการบริหารพรรค ได้พิจารณาเรื่องเสนอชื่อบุคคลให้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ.2561 ข้อ 17 (1) (ฉ) และ ข้อ 92 โดยที่ประชุมได้พิจารณาการที่พรรคพปชร.ได้เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย(พท.)โดยได้มีการแถลงข่าวร่วมกับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลอื่นๆไปเมื่อวันที่ 15 ส.ค.67 และในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 16 ส.ค.67 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคพปชร.ได้ลงมติเห็นชอบให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.)โดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อวันที่ 20 ส.ค.67 หัวหน้าพรรคพปชร.ได้เสนอรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคไปให้นายกฯ น.ส.แพทองธาร ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ผ่านนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน 4 ท่าน ดังนี้

1.พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

2.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์

3.นายสันติ พร้อมพัฒน์ ดำรงตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข

4. นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์

โดยที่ประชุมได้พิจารณาแล้ว ได้มีมติเห็นชอบรายชื่อบุคคลดังกล่าวข้างต้นให้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค ทั้งนี้ หากรายชื่อบุคคลที่เสนอไปข้างต้น ปรากฏว่า มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ผ่านคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ประชุมมีมติมอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคพปชร.เป็น  ผู้พิจารณาเปลี่ยนแปลงรายชื่อบุคคลใหม่และเสนอให้นายกฯดำเนินการทดแทน

ทั้งนี้ มติคณะกรรมการบริหารพรรคเสนอชื่อรัฐมนตรีของพรรคพปชร.ดังกล่าวมาข้างต้น เป็นการดำเนินการสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ท่านนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพท.ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนร่วมกับพรรคพปชร.และพรรคอื่นที่ร่วมรัฐบาลทุกพรรค ได้ประกาศเป็นสัญญาประชาคมว่าทุกพรรคจะร่วมกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาล โดยสนับสนุนให้ท่านเป็นนายกฯ มีข้อตกลงให้มีสัดส่วนรัฐมนตรีของแต่ละพรรคตามจำนวนเดิมในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ดังนั้น ในวันประชุมสภาผู้แทนราษฏร ในระเบียบวาระเลือกนายกรัฐมนตรี พรรคพปชร.จึงให้สส.สังกัดพรรคพปชร.ทุกคนออกเสียงด้วย  การขานชื่อลงมติเห็นชอบให้ท่านดำรงตำแหน่งนายกฯจำนวน 39 เสียง เว้นแต่หัวหน้าพรรคเท่านั้นที่ติดภาระกิจสำคัญอันไม่อาจหลีกเลี่ยงจึงไม่สามารถมาร่วมออกเสียงได้ และต่อมาพรรคพปชร.ได้ดำเนินการตามกฏหมายพรรคการเมืองและข้อบังคับพรรคจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อมีมติรับรอง การเสนอชื่อรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคพปชร.และหัวหน้าพรรคได้มีหนังสือนำส่งให้นายกฯตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.67 แล้วนั้น เพื่อท่านนายกฯจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลที่แถลงต่อสื่อมวลชน และปรากฏข่าวสื่อสารมวลชนว่าท่านนายกฯให้สลค.

หน่วยงานในสังกัดนายกฯเป็นผู้ติดต่อไปตามรายชื่อบุคคลที่พรรคร่วมรัฐบาลต่างๆเสนอเป็นรัฐมนตรี เพื่อให้กรอกแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรี ตรวจสอบประว้ติ และลักษณะต้องห้ามการเป็นรัฐมนตรีกันครบถ้วนทุกพรรคแล้ว

แต่ปรากฏว่าเมื่อพรรคพปชร.สอบถามไปยังพล.ต.อ.พัชรวาท ซึ่งเป็นบุคคลที่พรรคเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จึงทราบว่าสลค.ไม่ได้ติดต่อเพื่อส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้ ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลผู้ที่จะดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี พรรคพปชร.จึงมีหนังสือฉบับนี้เพื่อกราบเรียนนายกฯ ในฐานะที่ท่านมีอำนาจในการสั่งการสลค. ได้โปรดมีบัญชาให้สลค.ดำเนินการส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้กับพล.ต.อ.พัชรวาท เพื่อที่พรรคพปชร.จะได้ดำเนินการให้มีการกรอกข้อมูลและนำส่งสลค.โดยเร็วต่อไป