facebook

“เสรีพิศุทธ์” ถอนตัวไม่ร่วมรัฐบาล ‘เพื่อไทย‘ รับน้อยใจ

29 ส.ค. 2567
12:28

“เสรีพิศุทธ์” ถอนตัวไม่ร่วมรัฐบาล ‘เพื่อไทย‘ รับน้อยใจ ไม่ถูกทาบทามนั่งเก้าอี้ รมต. มอง เป็นเรื่องดีวิจารณ์ได้เต็มที่ พร้อมเปิดแชตยืนยันเข้าพบ “ทักษิณ” จริง 



เวลา 10.30 น. วันที่ 29 ส.ค. 67 ที่พรรคเสรีรวมไทย พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรค แถลงเหตุถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ตนมองว่าภารกิจการสนับสนุนพรรคเพื่อไทยให้เป็นรัฐบาลได้เสร็จสมบูรณ์แล้วในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล จึงถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้พรรคเสรีรวมไทยได้เดินตามอุดมการณ์อย่างเต็มที่ เพราะหากยังอยู่จะทำให้ไม่สามารถวิจารณ์นโยบายของรัฐบาลได้อย่างเต็มที่ เหมือนถูกเขาเหยียบตลอดเวลา โดยในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 67 มีมติ 7:4 ให้ถอนตัวออกจากความเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งได้ยื่นหนังสือผ่านเลขาธิการพรรคเพื่อไทยไปแล้ว ขณะเดียวกันคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงก็ไม่ใช่นางสาวแพทองธาร แต่เป็นนายทักษิณ ที่คอยควบคุมบัญชาการทุกอย่าง 


ทั้งนี้ หลายคนมองว่าที่ตนถอนตัวออกจากพรรคร่วมเพราะน้อยใจที่ถูกมองข้ามตลอด ซึ่งถ้าถามว่าน่อยใจไหม ตนก็น้อยใจ วันที่ไปประชุมเพื่อเสนอชื่อนางสาวแพทองธาร เป็นนายกฯ ตนก็พูดแดกดันเพื่อไทยไปว่าเสรีรวมไทยรับใช้เพื่อไทยมาทั้งชีวิตแล้ว แต่คนไม่เข้าใจที่ตนพูด และช่วง 17 ปีที่นายทักษิณ อยู่ต่างประเทศตนได้ไปเยี่ยมประมาณ 5 ครั้ง 


ตนไม่เคยมีหนี้บุญคุณกับนายทักษิณ แต่นายทักษิณ เคยพูดว่าเขาติดหนี้ตน แต่ก็ไม่บอกว่าจะชดใช้หนี้ยังไงสุดท้ายก็เฉย และเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้นายทักษิณ เคยให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้ตนดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ก็เงียบ ส่วนการจะแต่งตั้งใครเป็นรัฐมนตรีจะเอาใครก็ได้ที่ไม่ใช่ สส. ซึ่งเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีแต่ก็ลืมตนเองทุกที อาจเป็นเพราะตัวเองเป็นพรรคการเมืองที่มีเสียงเดียว พรรคอื่นอาจจะมาเพื่อหวังผล แต่ตัวเองมาเพื่อทำงาน 


นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังได้นำแชทข้อความไลน์ที่พูดคุยกับบุคคลหนึ่งที่คอยจัดคิวเข้าพบนายทักษิณ ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ขณะพักรักษาตัว เพื่อเป็นหลักฐาน ยืนยันว่ามีการเข้าพบนายทักษิณ จริง ภายหลังจากที่นายทักษิณ เคยปฏิเสธว่าไม่เป็นเรื่องจริง พร้อมเปิดเผยว่า ได้เข้าพบนายทักษิณถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกคือ 14 พ.ย. 66 และอีกครั้งในวันที่ 10 ก.พ. 67 โดยทั้งสองครั้งมีการพูดคุยเรื่องที่นายทักษิณ จะไม่เอาตระกูลวงศ์สุวรรณเข้าร่วมรัฐบาล ส่วนเรื่องอื่นเปิดเผยไม่ได้ขอให้รอเป็นไฮไลท์ในครั้งต่อไป และย้ำว่าการเปิดหลักฐานและการแฉในครั้งนี้ถือเป็นการตัดความสัมพันธ์ หลังจากนี้หากมีการติดต่อมาเทียบเชิญให้เป็นรองนายกฯ ก็จะไม่รับ


สำหรับหลักฐานในแชทไลน์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ยกรายละเอียดมา เช่น วันที่ 7 มกราคม อีกฝ่ายระบุว่ามี sms จาก “นายกปู” มา จึงขอพบ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ ในช่วงเช้าวันที่ 9 ม.ค. 67 พร้อมกับมีการส่งไฟล์ PDF มา หัวข้อเขียนว่า “หนังสือถอนร้องเรียน“ โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่าเป็นการขอให้ถอนเรื่องร้องเรียนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก่อนที่ต่อมา วันที่ 22 มกราคม จะทวงถามว่า ”ท่านเซ็นต์หนังสือส่ง ปปช หรือยังครับ“ 


ในช่วงท้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะเดินหน้าทำงานในฐานะฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ซึ่งไม่จำเป็นจะเข้าร่วมกับพรรคใด ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองไป ส่วนการคาดการณ์อนาคตของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร หลังจากนี้ อายุจะสั้นยิ่งกว่ารัฐบาลของนายเศรษฐา เพราะมีคนรอที่จะร้องเรียนอยู่เป็นจำนวนมาก


ขณะที่เกมการเมืองหลังจากนี้ระหว่างนายทักษิณ กับพลเอกประวิตร จะซัดกันนัวแน่นอน แต่ท้ายที่สุดพลเอกประวิตร จะสู้นายทักษิณไม่ได้ และยืนยันว่าไม่เคยพูดคุยกับนายชวน หลีกภัย ตามที่เป็นกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะร่วมกันแฉคนที่พักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14

ข่าวแนะนำ

เครือซีพี – ซีพีเอฟ ยกระดับโภชนาการในพื้นที่ห่างไกล เดินหน้า “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน”
© COPYRIGHT 2025 ROOM44 บริษัท นิวส์รูม 2020 จำกัด