"ไตรรัตน์" ฉลองล่วงหน้า! คาดศาลฯรับฟ้องคดีเอาเรื่อง 4 กสทช.ปลดพ้นรักษาการฯไม่เป็นธรรม แม้ซ้ำซ้อนศาล ปค.-ป.ป.ช. เข้าทางเกมดีดพ้นห้องประชุมวาระเห็นชอบเลขาฯ กสทช.คนใหม่ 4 ต.ค.นี้ ที่คาดว่า "สรณ" จะชงชื่อ "ไตรรัตน์" เหลือ กก.โหวตแค่ 3 คน ฉลุยแน่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 3 ต.ค.66 เวลา 09.30 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้นัดคำสั่ง หรือคำพิพากษา คดีที่ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.อ.ท.ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช. (จำเลยที่ 1), ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. (จำเลยที่ 2), รศ.ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย กรรมการ กสทช. (จำเลยที่ 3), รศ.ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการ กสทช. (จำเลยที่ 4) และ ผศ.ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ (จำเลยที่ 5) เป็นจำเลย ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 155/2566 

โดยโจทก์กล่าวหาว่า จำเลยทั้ง 5 เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 กรณีสอบสวนข้อเท็จจริงกล่าวหาโจทก์เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย และดำเนินการให้มีการเปลี่ยนรักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. แทนโจทก์ โดยมิชอบ ซึ่งศาลฯ ได้รับคดีไว้เพื่อตรวจคำฟ้อง เมื่อวันที่ 12 ก.ย.66 

รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้นมีแนวโน้มว่า ศาลฯ จะประทับรับฟ้องคดีดังกล่าว และเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีต่อไปคือการไต่สวนมูลฟ้อง แม้ว่าในกรณีเดียวกันมีเรื่องร้อง และคดีอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาลปกครอง แล้วก็ตาม

รายงานข่าวจากสำนักงาน กสทช.ระบุว่า ในวันที่ 4 ต.ค.66 จะมีการประชุม กสทช. โดยมีวาระสำคัญในการเสนอชื่อผู้ที่ได้รับการสรรหาเป็นเลขาธิการ กสทช.คนใหม่ ที่คาดการณ์ว่า นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. จะเสนอชื่อ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. สายงานยุทธศาสตร์และกิจการองค์กร เพื่อให้ที่ประชุมลงมติเห็นชอบให้เป็นเลขาธิการ กสทช.คนใหม่ ซึ่งหากศาลฯประทับฟ้อง ก็จะส่งผลให้ กสทช. 4 รายที่ตกเป็นจำเลยจะเข้าข่ายมีลักษณะเป็นคู่กรณี มีความไม่เป็นกลาง อันเป็นสภาพร้ายแรงกับ นายไตรรัตน์ ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ซึ่งเป็นประเด็นที่เคยพยายามหยิบยกขึ้นมาในที่ประขุม กสทช.เมื่อวันที่ 21 ก.ย.66 แล้ว แต่ กสทช. 4 รายได้มีบันทึกข้อความคัดค้านการบรรจุวาระเรื่องการแต่งตั้งเลขาธิการ กสทช. เข้าที่ประชุม กสทช. เพราะกระบวนการสรรหาน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่โปร่งใส รวมทั้งเห็นแย้งว่า แม้ กสทช. ทั้ง 4 คน ถูก นายไตรรัตน์ ฟ้องต่อศาลฯ แต่ไม่ได้ทำให้ กสทช.ทั้ง 4 คน เป็นผู้มีส่วนได้เสีย หรือไม่เป็นกลางแต่อย่างใด เนื่องจากศาลฯ ยังมิได้วินิจฉัยจนถึงที่สุดว่า กสทช.ทั้ง 4 คน ทำความผิดตามฟ้องจริงหรือไม่

รายงานข่าวแจ้งต่อไปว่า ผู้เกี่ยวข้องกับกรณีการแต่งตั้งเลขาธิการ กสทช.คนใหม่บางคนได้แสดงความมั่นใจว่า วาระการแต่งตั้งเลขาธิการ กสทช.จะได้รับการพิจารณา และผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม กสทช.ในวันที่ 4 ต.ค.66 โดยจะดำเนินการตามแผนดังกล่าวแม้ว่ากรรมการทั้ง 4 ได้ทำเรื่องค้านแล้ว โดยอ้างคำสั่งศาลในวันที่ 3 ต.ค.นี้ ที่มีแนวโน้มจะรับคำฟ้อง แม้เป็นการรับตามขั้นตอนปกติเพื่อมาไต่สวนเท่านั้น ยังมิได้มีการชี้มูลความผิดแต่อย่างใด แต่ทางประธานและนายไตรรัตน์จะสรุปเองโดยทำให้ กสทช.ทั้ง 4 คนดังกล่าวเป็นปฏิปักษ์และต้องหยุดการพิจารณาตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองฯ และต้องออกจากที่ประชุมในช่วงการพิจารณาวาระแต่งตั้งเลขาธิการ กสทช. ให้ได้ เพื่อเหลือเพียง นพ.สรณ, พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร และนายต่อพงศ์ เสลานนท์ เป็นองค์ประชุม โดยไม่สนใจกฎหมายของ กสทช. ที่ต้องมีองค์ประชุมไม่ต่ำกว่า 4 คน เพื่อพิจารณาชื่อเลขาธิการ กสทช.คนใหม่ ที่ นพ.สรณ จะเป็นผู้เสนอให้ได้

รายงานข่าวแจ้งต่อไปว่า หาก นพ.สรณ เสนอขื่อ นายไตรรัตน์ จริงก็คาดว่า จะได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม เพราะที่ผ่านมาทั้ง นพ.สณณ, พล.ต.อ.ณัฐธร และนายต่อพงศ์ ล้วนแล้วแต่มีท่าทีสนับสนุน นายไตรรัตน์ มาโดยตลอด ซึ่งเมื่อครั้งที่ที่ประชุม กสทช.มีมติเสียงข้างมากให้ ไตรรัตน์ พ้นจากตำแหน่งรักษาการเลขาธิการ กสทช. และมีมติให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย กรณีการสนับสนุนค่าซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 600 ล้านบาท นั้น เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.66 พบว่า พล.ต.อ.ณัฐธร และนายต่อพงศ์ เป็นเสียงข้างน้อยที่ลงมติไม่เห็นด้วย ขณะที่ นพ.สรณ งดออกเสียงในฐานะประธานในที่ประชุม