เด็ก ม.4 ขับมอไซต์ฝ่าฝนกลับจากเรียน ถูก 18 ล้อทับเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2567 ร.ต.อ.นิรันดร์ สวัสดิ์ศรี พงส.สภ.พระประแดง ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อบรรทุกสารเคมีทับรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต บริเวณหน้าปั๊มแก็สริมถนนสุขสวัสดิ์ มุ่งหน้าเข้าอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ใกล้เคียงจุดกับรถท่าเรือ BDS ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลบางจากและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลนซึ่งมีฝนตกเบาๆตลอดเวลา บริเวณเลนซ้ายสุดพบรถยนต์บรรทุก 10 ล้อยี่ห้อ อีซูซุ สีน้ำเงิน จอดเกือบชิดฟุตบาทบริเวณล้อหลังด้านขวาพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น มีโอ 125 GT สีแดง-ดำ ล้มคว่ำอยู่

โดยมีกระเป๋าหนังสือของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการหล่นอยู่ด้วย บริเวณเลนที่ 2 พบรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อแบบแทงค์ บรรทุกสารเคมีไวไฟชื่อ อะครีโลไนไตรล์ มาเต็มคัน

บริเวณล้อหลังด้านซ้ายพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นเด็กนักเรียนชาย นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตคาชุดนักเรียนอยู่บนพื้นถนน ในลักษณะล้อหลังยังทับร่างคาล้อรถ ทราบชื่อภายหลัง เด็กชายณัฐภาส อายุ 15 ปี ต.หนองหลวง อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์

จากการสอบถาม นายพรพจน์ อายุ 62 ปี ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โชว์เฟอร์รถบรรทุก 18 ล้อพ่วงให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถออกมาจากการเติมน้ำมันในคลังเคมีย่านซอยสุขสวัสดิ์ 43 ก่อนที่จะขับกลับเข้าลานจอดในซอยสุขสวัสดิ์ 78 เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุในขณะที่ตนขับรถมาในช่องทางปกติ เห็นรถจักรยานยนต์ของผู้ตายได้ขี่แซงมาทางด้านซ้ายของรถตน จนมาเห็นรถบรรทุก 10 ล้อจอดอยู่ข้างทางก่อนที่จะชนล้อหลังท้ายรถตน จนคนกระเด็นเข้าไปใต้ท้องรถถูกล้อทับดับ ตนจึงรีบเบรคหยุดรถเพื่อลงไปดูแต่ไม่ทันการณ์ผู้ตายเสียชีวิตแล้ว

สอบถาม นางสาวมาลัย อายุ 45 ปี ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ แม่ของผู้ตายกล่าวทั้งน้ำตาทราบว่า เดิมทีผู้ตายเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 3 กระทั่งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้สอบติดโรงเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แผนการเรียน ศิลปะศาสตร์-จีน โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุไปโรงเรียนเพื่อเรียนปรับพื้นฐานวิชาเรียนที่โรงเรียนใหม่ กระทั่งหลังเลิกเรียนผู้ตายจะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพักย่านพระสมุทรเจดีย์ กระทั่งมีคนรู้จักโทรศัพท์มาแจ้งตนว่า ลูกชายถูกรถบรรทุกสารเคมีทับเสียชีวิตแล้ว

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดข้างรถบรรทุก 18 ล้อ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ก่อเกิดเหตุรถบรรทุก 18 ล้อ ได้วิ่งมาในเลนที่ 2 นับจากเลนซ้ายสุด ก่อนที่จะมีรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านและรถจักรยานยนต์ของผู้ตายกำลังวิ่งแซงด้านซ้ายไป เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ของผู้ตายได้เบรกกะทันหัน เนื่องจากพบรถบรรทุก 10 ล้อจอดอยู่ข้างทางในเลนซ้ายสุด ทำให้รถจักรยานยนต์เสียหลักล้มคว่ำจนร่างผู้ตายกระเด็นเข้าใต้ท้องรถบรรทุก 18 ล้อถูกล้อรถทับจนเสียชีวิต จึงมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์ ก่อนเชิญตัวโชว์เฟอร์รถบรรทุก 10 ล้อและรถบรรทุก 18 ล้อ ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจพร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อไป