facebook

กลุ่มนักเคลื่อนไหว จัดกิจกรรมจุดเทียนไว้อาลัย ‘บุ้ง ทะลุวัง’

14 พ.ค. 2567
19:55

กิจกรรมจุดเทียน ไว้อาลัย “บุ้ง ทะลุงวัง” หน้าศาลอาญา รังสิมันต์ เผย อยากให้เป็นกรณีสุดท้ายที่เกิดขึ้น ลั่น หลังจากนี้ฝ่ายค้านและรัฐบาลควรพูดคุยด้านกระบวนการยุติธรรมอย่างจริงจัง


เวลา 19.00 น. บรรยากาศที่หน้าศาลอาญารัชดาเป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยมีไผ่ดาวดิน ปูน ทะลุวัง และนักกิจกรรมทางเมือง รวมถึงเพื่อนๆของ น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง ทะลุวัง ผู้ต้องขังคดีทางการเมือง ได้รวมตัวจุดเทียนเป็นตัวอักษรไว้อาลัย เพื่อรำลึกถึง บุ้ง ที่เสียชีวิตในโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อเวลา 11.22 น. ที่ผ่านมา ด้วยอาการล้มฟุบหัวใจหยุดเต้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ บุ้ง ได้อดน้ำ อดอาหาร เพื่อประท้วงการปล่อยตัวจากคดี ม.112 รวมแล้ว 110 วัน นอกจากกิจกรรมจุดเทียนไว้อาลัยแล้ว ยังกิจกรรมยืนสงบนิ่ง 1 นาที เพื่อไว้อาลัยให้กับการจากไปของนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่าง บุ้ง รวมไปถึงกลุ่มเพื่อนที่ออกมาพูดถึงความรู้สึกต่อ บุ้ง พร้อมกับการอ่านแถลงการณ์ และร้องเพลงปิดท้ายกิจกรรมในวันนี้ 


โดยเนื้อหาบางส่วนแถลงการณ์ ระบุว่า “เรามารวมกันหน้าศาลอาญาในวันนี้ (14 พ.ค. 67 ) ด้วยหัวใจดวงเดียวกัน หัวใจที่รักประชาธิปไตย หัวใจที่รักความเป็นธรรม และแน่นอนที่สุด หัวใจที่ต้องการระลึกถึงบุ้ง และส่งกำลังใจให้กับครอบครัวของบุ้งและผู้ต้องขังทางการเมืองที่ยังอยู่ในเรือนจำ


วันนี้เป็นวันที่ 110 นับตั้งแต่วันที่บุ้งถูกถอนประกันจากคดีมาตรา 112 จากการทำโพลขบวนเสด็จเมื่อวันที 26 ม.ค.67 และเป็นวันที่บุ้งจากเราไป ในเช้าวันนี้ในเวลา 11.22 น. สาเหตุการเสียชีวิตยังรอผลการชันสูตรพลิกศพต่อไป ก่อนหน้านี้บุ้งประกาศอดอาหารเพื่อเรียกร้องให้ 


1. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 

2. ไม่มีคนเห็นต่างทางการเมืองถูกคุมขังอีก


ในวันนี้ วันที่บุ้งเสียชีวิต ข้อเรียกร้องดังกล่าวก็ยังไม่เกิดขึ้น โดยยังมีผู้ถูกคุมขังจากคดีทางการเมืองถึง 45 รายในเรือนจำ แน่นอนจำนวนเพิ่งลดลง 1 รายจากการจากการเสียชีวิตของบุ้งเมื่อเช้านี้ 


บุ้งมักกล่าวเสมอว่า เขาเป็นลูกหลานตุลาการ แต่เรามาที่นี่วันนี้ไม่ใช่เพราะว่าบุ้งเป็นลูกหลานของตุลาการ เรามายืนที่แห่งนี้เพราะบุ้งเป็นลูกหลานของประชาชน ประชาชนที่มีสิทธิเสรีภาพ และไม่ควรมีใครต้องจากไปเพียงเพราะใช้สิทธิเสรีภาพ และยืนยันว่าทุกคนที่อยู่ระหว่างต่อสู้คดี ต้องได้รับสิทธิในการปล่อยตัวชั่วคราว


บุ้งไม่ใช่ผู้ต้องขังคดี 112 รายแรกที่จากไประหว่างการถูกควบคุมตัว ก่อนหน้านี้ อากง หรือนายอำพล ผู้ต้องขังคดี 112 ได้เสียชีวิตในวันที่ 8 พฤษภาคม 2555 ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์เช่นเดียวกัน เหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีกต่อไป ไม่ควรต้องมีผู้ต้องขังคดีการเมืองในประเทศที่มีสิทธิเสรีภาพ ในประเทศที่เป็นนิติรัฐและปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย


เราขอเรียกร้องให้มีปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีทางการเมือง และนิรโทษกรรมประชาชนโดยรวมคดีมาตรา 112 ให้ประชาชนทุกฝ่ายได้กลับคืนสู่ความปกติ และเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอีกต่อไป และในโอกาสนี้ขอใช้ระยะเวลาหนึ่งนาทีในการยืนสงบนิ่งเพื่อส่งดวงวิญญาณของบุ้ง และขอส่งกำลังใจให้ครอบครัวของบุ้งด้วยเช่นเดียวกัน”


เช่นเดียวกันนี้นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส.เนติพร หรือบุ้ง ทะลุวัง เสียชีวิตว่า มันเป็นสถานการณ์ที่ตนคิดว่าก็ไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้น หากพูดบนพื้นฐานว่าคนสักคนหนึ่งควรที่จะมีสิทธิ์ในการประกันตัวเพื่อสู้คดี ตนว่ามันเป็นสิทธิ์พื้นฐานที่ควรจะมี และมันไม่ได้เป็นสิ่งที่ร้องขอหรือต้องการให้เกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่ง แต่เป็นเรื่องพื้นฐานที่ประเทศที่เป็นสากลล้วนจะมีทั้งสิ้นสิ้น ตนคิดว่าในวันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นกับบุ้ง มันคงจะต้องให้กลับมาทบทวนว่ากระบวนการยุติธรรมของเราต้องมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในเรื่องของการประกันตัว คิดว่าไม่ควรจะมีใครจะต้องอดอาหารเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมในเรื่องของกระบวนการที่ทำอยู่แล้ว ไม่ควรที่จะมีใครต้องมาเสียชีวิตแบบนี้อีกแล้ว ตนก็ได้แต่หวังว่าสังคมไทยของเราจะรู้สึกอย่างมากพอว่าต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อความเปลี่ยนแปลงตรงนี้ เชื่อว่าทุกๆฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน และผู้พิพากษาต้องทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มองมายังกระบวนการยุติธรรมตกต่ำอย่างที่สุด ตนคิดว่าเราต้องการความเปลี่ยนแปลง และตรงนี้เป็นที่พึ่งของประชาชนได้จริงๆ


ส่วนตอนนี้ตนยอมรับว่า ถ้ามองมุมการเมืองไม่ค่อยมีหวัง แต่ตนก็คิดว่ามันเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องช่วยกันให้การเมืองมันดีขึ้น เพื่อมองหาถึงความเป็นไปได้ในเรื่องของการนิรโทษกรรม ตนเองก็เป็นรองประธานอยู่ในกรรมาธิการที่กำลังศึกษาในเรื่องของการนิรโทษกรรมแต่วันนี้ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ในวันที่มีการตั้งกรรมาธิการศึกษาจนถึงวันนี้มันเปลี่ยนไป และตนคิดว่าเหตุการณ์วันนี้เกิดขึ้นเราต้องกลับมาทบทวน หากมีการเสนอเรื่องนี้ตนเชื่อว่า ในบทบาทของผู้นำฝ่ายค้านก็พร้อมที่จะสนับสนุนกลไกลต่างๆที่จะพาไปถึงหนทางการสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นได้ 


ทั้งนี้ ตนสนับสนุนในเรื่องของเสรีภาพการแสดงออกตนเชื่อว่าการแสดงออกมันไม่ใช่เรื่องที่จะรุนแรงถึงขนาดที่จะต้องดำเนินคดีกันด้วยในข้อหาที่หนักอย่างที่เราเห็นอยู่ในทุกวันนี้ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สังคมในระยะยาวต้องคุยกันต้องคิดกันทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต้องมีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น อีกทั้ง สุดท้ายตนไม่อยากให้กรณีแบบบุ้งเกิดขึ้นอีกแล้ว ตนคิดว่าคงจะเป็นกรณีสุดท้ายมันเพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่ากระบวนการยุติธรรมของเรามีปัญหา และมันควรจะเพียงพอแล้วที่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ให้เราทุกฝ่ายมาคุยกันมาคิดกันในการหาทางออกที่ดีที่สุด


 

ใส่คำบรรยายภาพ

 

ใส่คำบรรยายภาพ

 

ใส่คำบรรยายภาพ

 

ใส่คำบรรยายภาพ

 

ใส่คำบรรยายภาพ

 

ใส่คำบรรยายภาพ

 

ใส่คำบรรยายภาพ

 

ใส่คำบรรยายภาพ

 

ใส่คำบรรยายภาพ

 

ใส่คำบรรยายภาพ

 

ใส่คำบรรยายภาพ

 

ใส่คำบรรยายภาพ

 

ข่าวแนะนำ

กองทัพบก-ม.แม่ฟ้าหลวง-ซีพี-ซีพีเอฟ ร่วมภารกิจส่งอาหารจากใจ
© COPYRIGHT 2025 ROOM44 บริษัท นิวส์รูม 2020 จำกัด