อัปเดต 5 เทรนด์แฟชั่นและสไตล์การแต่งตัวในปี 2023

ใครที่ชื่นชอบ สนุกกับการแต่งตัว บทความนี้เราจะพาทุกคนมาสำรวจแนวทางสไตล์การแต่งตัวที่เป็นที่นิยมในปี 2023 ที่เราสามารถปรับการแต่งตัวของเราให้เหมาะสมกับโอกาสต่างๆตามความเหมาะสมได้ มาเริ่มครีเอทลุคอย่างลงตัวกันเถอะ!

1. แต่งตัวด้วยเสื้อโอเวอร์ไซส์ (Oversized clothes)

เสื้อโอเวอร์ไซส์ออกแบบมาเพื่อให้เรารู้สึกสะดวกสบายเมื่อสวมเสื้อ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวสบายๆ เช่น แต่งตัวไปทะเล แต่งตัวไปทำงานออฟฟิศ หรือแต่งตัวไปออกเดท เราก็สามารถพบกับเสื้อโอเวอร์ไซส์สกรีนลายน่ารักต่างๆได้มากมาย

สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์กับสไตล์อื่นๆได้ง่ายมากๆ เช่น กางเกงยีนส์สั้นหรือกางเกงขาสั้น จะได้ลุคที่สบายๆ หรือลองใส่กับกระโปรงสั้นเพื่อลุคที่ดูน่ารักๆก็ได้เช่นกัน

เนื้อผ้าส่วนใหญ่มักจะเป็นผ้าคอตตอน เช่น สีพาสเทลอ่อนๆ หรือสีขาวเรียบๆ ที่สามารถแมตช์เข้ากับลุคอื่นได้ง่าย

2. แต่งตัวแนวสตรีท หรือสตรีทแวร์ (Streetwear)

เราสามารถเลือกมิกซ์แอนด์แมทช์ระหว่างเสื้อผ้ากีฬาและเสื้อผ้าแบรนด์อย่าง Supreme, Bape, หรือ Nike เสื้อผ้าสตรีทแวร์เหมาะสำหรับใส่ในการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมที่ต้องการความอิสระและคล่องตัว เช่น การเล่นสเก็ตบอร์ด หรือการเล่นกีฬา

เราสามารถผสมกับสไตล์อื่นๆเพื่อสร้างลุคที่ทันสมัยและสวยงาม เช่น สวมใส่เสื้อผ้าสตรีทแวร์พร้อมกับกางเกงยีนส์ขาสั้นเพื่อลุคที่ดูสบายๆ หรือจะใส่กับกระโปรงหรือกางเกงกีฬาเพื่อลุคที่น่ารักและลุคที่ดูคูลก็ได้

สไตล์สตรีทแวร์มักมีการใช้สีที่สดใสและเข้ม เราสามารถเลือกสีที่เข้ากับบรรยากาศหรือสีที่เป็นที่นิยมได้ เช่น สีเขียวเข้ม, สีดำ, หรือสีเทา

3. แต่งตัวมินิมอล (Minimalism)

เสื้อผ้าแนว Minimalism (มินิมอล) เน้นความเรียบง่ายและรายละเอียดที่น้อย สไตล์นี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเรียบง่ายสบายตา เหมาะสำหรับการใส่ในโอกาสที่ต้องการความเรียบง่าย หรือ จะเป็นแต่งตัวไปคาเฟ่ (Café Hopping) คุมโทนมินิมอล ไปทำงานในออฟฟิศ หรือแต่งตัวไปงานแต่งก็ได้เช่นเดียวกัน

สามารถผสมกับสไตล์อื่นๆ เพื่อสร้างลุคให้เข้ากับโอกาสต่างๆ เช่น เราสามารถสวมใส่เสื้อผ้าแนว Minimalism พร้อมกับกางเกงขาสั้นหรือกระโปรงยาว เพื่อเสริมให้ลุกของเราสมบูรณ์และดูดีมากขึ้นก็ได้เช่น

สามารถเลือกเนื้อผ้าที่ไม่มีลวดลาย เช่น สีเอิร์ธโทนเรียบๆ เพื่อความเรียบง่ายและสบายตา สีควรเลือกสีพื้นฐานหรือสีที่อ่อนโยน เช่น สีขาว, ดำ, เทา ซึ่งสามารถผสมกับสีอื่น ๆ ได้ง่าย ควรเลือกสีที่เข้ากับบรรยากาศและบุคลิกภาพของเรา

4. แต่งตัวสีพาสเทล (Pastel colors)

เสื้อสีพาสเทลเป็นสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงเวลานี้ เพราะสีพาสเทลสามารถเพิ่มความน่ารักในลุคของเราได้ง่าย สีพาสเทลเหมาะสำหรับใส่ในโอกาสที่ต้องการความนุ่มนวลและอ่อนโยน เช่น งานเลี้ยงหรืองานแต่งงานที่ต้องการลุคที่น่ารักเรียบร้อย

เราสามารถสวมใส่เสื้อผ้าสีพาสเทลพร้อมกับกางเกงขาสั้นหรือกระโปรงเพื่อลุคที่น่ารักและสนุกสนาน หรือสวมใส่เสื้อผ้าสีพาสเทลพร้อมกับกางเกงยีนส์หรือเสื้อผ้าสไตล์เพื่อเพิ่มความเป็นทางการก็ได้เช่นกัน

เราสามารถเลือกใช้สีพาสเทลอ่อนๆ เช่นสีฟ้าอ่อน สีชมพูอ่อน หรือสีพาสเทลที่เข้ากับชุดน่ารักๆของเราได้

5. แต่งตัวลายดอกไม้ (Floral Print)

เสื้อผ้าลายดอกไม้เป็นที่นิยมในวงการแฟชั่นเช่นกัน เพราะมีความหวานและมีความโรแมนติก ลายดอกไม้บนเสื้อผ้าสามารถเพิ่มความน่ารักและสดใสให้กับลุคได้ง่าย เหมาะสำหรับใส่ในโอกาสที่อยากได้ลุคที่น่ารักและสดใส เช่น การแต่งตัวไปทะเล หรือการแต่งตัวไปคาเฟ่

ลายดอกไม้สามารถผสมกับสไตล์อื่นๆ เพื่อสร้างลุคที่สดใสยิ่งขึ้น เช่น เราสามารถสวมเสื้อผ้าลายดอกไม้พร้อมกับกางเกงยีนส์เพื่อลุคที่เรียบง่ายและสบายตา หรือสวมเสื้อผ้าลายดอกไม้พร้อมกับกระโปรงสั้นน่ารักๆหรือกระโปรงยาวที่ดูเรียบร้อยก็ได้เช่นกัน

เนื้อผ้าที่เบาสบาย เช่น ผ้าไหมอิตาลี หรือผ้าชีฟอง จะเสริมให้ลุคดูไม่หนักจนเกินไป การเลือกสีอาจเป็นสีพาสเทลหรือสีอ่อนที่สามารถแมทกับลุคอื่นๆได้ง่ายๆ

นอกจากจะสนุกไปกับการแต่งตัวอัพเดทรนด์ให้ทันสมัยแล้ว อย่าลืมหันมาดูแลสุขตัวเองกันด้วยนะคะ อย่างผลิตภัณฑ์อาหารเสริม “Syn Fiber Mix Prune” เพื่อนที่รู้ใจ ลำไส้คุณไฟเบอร์รสพรุนสุดแสนอร่อย ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพ เพราะอุดมไปด้วย SYNBIOTIC มีทั้งPrebiotic และ Probiotic แถมยังมีประโยชน์ดี ๆ อีกมากมาย ทั้งวิตามินซี และคอลลาเจน อีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line official account: @synfiber.official

ขอบคุณข้อมูลบทความดีๆจาก https://fahfahsworld.com/blog/2023-fashion-trends/